
ซื้อคอนโด Yield ต้องเท่าไหร่ ถึงจะน่าลงทุน ?
การลงทุนในคอนโดมิเนียมเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจนั้น “Yield” หรือผลตอบแทนจากการเช่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา แต่ตัวเลขที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
ปัจจัยที่มีผลต่อ Yield ที่น่าลงทุน:
- ทำเลที่ตั้ง:
- ทำเลใจกลางเมือง ใกล้แหล่งธุรกิจ สถานศึกษา หรือขนส่งสาธารณะ มักมี Yield สูงกว่า
- ทำเลนอกเมืองหรือชานเมือง อาจมีราคาคอนโดต่ำกว่า แต่ Yield ก็อาจต่ำตามไปด้วย
- ประเภทของคอนโด:
- คอนโดขนาดเล็ก (Studio หรือ 1 ห้องนอน) มักมี Yield สูงกว่าคอนโดขนาดใหญ่
- คอนโดระดับ Luxury อาจมีค่าเช่าสูง แต่ราคาซื้อก็สูงตาม ทำให้ Yield ไม่สูงเท่าที่ควร
- สภาพตลาด:
- ช่วงเศรษฐกิจดี ความต้องการเช่าสูง Yield ก็สูงตาม
- ช่วงเศรษฐกิจซบเซา ความต้องการเช่าต่ำ Yield ก็ต่ำลง
- ค่าใช้จ่าย:
- ค่าส่วนกลาง ค่าภาษี ค่าบำรุงรักษา มีผลต่อ Yield สุทธิ
ตัวเลข Yield ที่น่าสนใจ:
- โดยทั่วไป Yield ที่ 5-8% ต่อปี ถือว่าน่าสนใจสำหรับการลงทุนคอนโด
- อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น
- ทั้งนี้คุณควรคิดค่าใช้จ่ายต่างๆเช่นค่าส่วนกลางหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละเดือน เพื่อพิจารณากำไรที่จะได้รับอย่างถูกต้อง
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ศึกษาข้อมูลตลาดคอนโดในทำเลที่คุณสนใจอย่างละเอียด
- เปรียบเทียบ Yield ของคอนโดหลายๆ แห่ง
- พิจารณาความเสี่ยงและผลตอบแทนโดยรวมของการลงทุน
- นอกจากค่า Yieldแล้ว คุณยังสามารถมองผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ด้วย(Capital gain)